คลังสินค้าอัจฉริยะ หรือ Smart Warehouse นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก โดยถ้าหากเราเปรียบเทียบกับ “สมาร์ทโฟน” หรือ “อุปกรณ์อัจฉริยะ” เราอาจสรุปได้ว่าสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทำงานแบบอัตโนมัติที่ใช้หุ่นยนต์และคอมพิวเตอร์ทำงานเท่านั้นที่ถือว่าสะดวกที่สุด ในขณะที่ระบบหยิบ โหลด และเติมสินค้าอัตโนมัตินั้นสะดวกจริง ๆ ตามมาตรฐานในปัจจุบัน
ซึ่งในบทความต่อไปนี้เราจะกำหนดให้คลังสินค้าอัจฉริยะ หรือ Smart Warehouse ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยคำนึงถึงแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดเสมอ ภายใต้ความต้องการที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และอยู่ภายใต้ข้อจำกัดด้านงบประมาณของตัวธุรกิจเอง คุณลักษณะสำคัญเหล่านี้ “เป็นกลางเรื่องขนาด” และนำไปใช้กับใครก็ตามที่ดูแลคลังสินค้าหรือศูนย์กระจายสินค้าที่ต้องการการตอบสนองและความสามารถในการแข่งขัน ไม่ว่าจะมีงบประมาณเท่าใด โดยคุณสมบัติหลัก 5 ประการที่ คลังสินค้าอัจฉริยะ (Smart Warehouse) ต้องมีมีดังนี้
บางทีปัจจัยที่สำคัญที่สุดเพียงอย่างเดียว คือ คลังสินค้าอัจฉริยะ หรือ Smart Warehouse ทำงานเพื่อลดการใช้แรงงานคนและการป้อนข้อมูลในทุกที่ที่ทำได้ นอกเหนือจากการช่วยลดต้นทุนและความต้องการกำลังคนแล้ว ระบบอัตโนมัติของกระบวนการยังช่วยเพิ่มความแม่นยำในการจัดส่งและความเร็วในการป้อนข้อมูล ไม่ว่าปริมาณจะถูกประมวลผลในระดับใดก็ตาม
ระบบอัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพต้องการความสอดคล้องกันจำนวนหนึ่งทั้งในการทำซ้ำและปริมาณงานของผลิตภัณฑ์ แน่นอนว่ายิ่งมีความสอดคล้องและการทำซ้ำในธุรกิจมากเท่าใด ก็ยิ่งมีเหตุผลมากขึ้นสำหรับระบบอัตโนมัติที่มีความซับซ้อนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม หากปราศจากอย่างใดอย่างหนึ่ง ต้นทุนของฮาร์ดแวร์และ/หรือซอฟต์แวร์อาจไม่สมเหตุสมผลกับค่าใช้จ่าย
คุณลักษณะที่สองของคลังสินค้าอัจฉริยะ (Smart Warehouse) คือ การคงความรวดเร็ว หรืออย่างน้อยก็ว่องไวให้มากที่สุด ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น ปริมาณงานและกระบวนการที่สม่ำเสมอในระดับที่สูงขึ้นอาจกำหนดการลงทุนที่มากขึ้นในระบบอัตโนมัติที่ “คงที่” ดังนั้นอาจมีการยืดหยุ่นในระดับหนึ่ง และสูญเสียความว่องไวบางส่วนเมื่อการลงทุนในระบบอัตโนมัติแบบคงที่เพิ่มขึ้น
คลังสินค้าอัจฉริยะ (Smart Warehouse) มีหน้าที่สำคัญสองประการเกี่ยวกับคลังสินค้าทางกายภาพ อย่างแรกคือการปรับคลังสินค้าให้เหมาะสมตามที่มีอยู่ และงานที่สองคือการจัดการและวางแผนสำหรับการเติบโตในอนาคต ในการปรับพื้นที่ให้เหมาะสม มักใช้ชั้นวางและชั้นวางแบบกำหนดค่าใหม่ได้ เพื่อให้สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วตามผลิตภัณฑ์หรือความต้องการใหม่
นอกจากนี้ คลังสินค้าอัจฉริยะยังมีขั้นตอนกระบวนการที่ยืดหยุ่นหรือเป็นทางเลือกที่ช่วยให้สินค้า “ทั้งหมด” สามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างราบรื่นจากท่าเรือหนึ่งไปยังอีกชั้นหนึ่ง จากท่าเรือหนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ฯลฯ อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยพื้นฐานแล้วควรสร้างคลังสินค้าอัจฉริยะ (Smart Warehouse) เพื่อรองรับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และ คลังสินค้าอัจฉริยะ (Smart Warehouse) มักจะวางตำแหน่งตัวเองในการขยายขนาด โดยการมีเครื่องมือทั้งหมดเพื่อดึงดูด รักษาลูกค้า และสนับสนุนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เมื่อมีข้อกำหนดในการปฏิบัติงานขั้นพื้นฐานแล้ว ความสามารถในการปรับขนาดมักจะขึ้นอยู่กับซอฟต์แวร์การจัดการคลังสินค้าที่เลือก เมื่อได้รับการออกแบบอย่างเหมาะสมคลังสินค้าอัจฉริยะ (Smart Warehouse) ก็พร้อมที่จะรับมือกับการเติบโตหรือความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่พลาดแม้แต่ครั้งเดียว หรือทำให้งบประมาณเสียหาย
คลังสินค้าอัจฉริยะมีการบูรณาการอย่างสมบูรณ์ และสามารถให้ข้อมูลแก่ลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับสินค้าคงคลังของตนได้อย่างเต็มที่ ทันทีที่ได้รับการจัดการ การมองเห็นและเรียลไทม์เป็นมาตรฐานพื้นฐานของ คลังสินค้าอัจฉริยะ (Smart Warehouse)
สำหรับ คลังสินค้าอัจฉริยะ (Smart Warehouse) หมายความว่าข้อมูลจะได้รับการอัปเดตทันทีที่งานเสร็จสิ้น แทนที่จะต้องรอดำเนินการข้ามคืน ซึ่งช่วยให้ลูกค้าคลังสินค้าสามารถมองเห็นระบบได้อย่างสมบูรณ์ เพื่อให้พวกเขาสามารถเห็นสถานะของสินค้าคงคลังตามที่มีอยู่ในขณะนี้ เมื่อเทียบกับเมื่อคืนที่ผ่านมา หรือแม้แต่สองชั่วโมงก่อนหน้านั้น
เนื่องจากเรียลไทม์เป็นมาตรฐานใหม่ ซอฟต์แวร์และอุปกรณ์รวบรวมข้อมูล เช่น เครื่องสแกนบาร์โค้ดแบบใช้มือถือเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการทำให้ระดับสินค้าคงคลังถูกต้องและเป็นปัจจุบัน สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือบุคลากรของ คลังสินค้าอัจฉริยะ (Smart Warehouse) นำแนวคิดการทำงานร่วมกันมาใช้
และสุดท้าย คลังสินค้าอัจฉริยะ (Smart Warehouse) สร้างธุรกิจเพื่อมอบประสบการณ์ Customer Centric และวิธีการ Web Centric เป็นผู้อำนวยความสะดวกที่สมบูรณ์แบบ ข้อดีของเว็บในแง่ของการนำเสนอประสบการณ์ลูกค้าแบบ 360 องศา ส่งเสริมด้วยราคาที่แข่งขันได้และราคาไม่แพง การส่งมอบบริการคลังสินค้าและการกระจายสินค้าที่เหนือกว่า และเปิดใช้งานโดย WMS ที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง เป็นข้อเสนอที่คุ้มค่าที่ยากที่จะละเลย ยิ่งไปกว่านั้น ระบบที่เน้นเว็บเป็นศูนย์กลางช่วยให้คลังสินค้าอัจฉริยะ (Smart Warehouse) เข้าถึงการดำเนินงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ จากทุกที่ในโลกและจากอุปกรณ์ทุกประเภท และแน่นอนว่าผลประโยชน์เดียวกันนี้จะส่งผลไปถึงลูกค้า คู่ค้า และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
สรุปได้เลยว่าในการทำ คลังสินค้าอัจฉริยะ (Smart Warehouse) จะต้องมีคุณสมบัติดังนี้
โดยที่ AEI Solution พร้อมให้บริการที่รอบด้านและครบวงจรในคลังสินค้า ตั้งแต่การให้คำปรึกษา ออกแบบ ติดตั้ง การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน WMS ระบบ ASRS ไปจนถึงคลังสินค้าอัตโนมัติ (Automated Warehouse) นอกจากนี้ เรายังมีบริการหลังการขายที่มีคุณภาพ จึงทำให้ลูกค้าสามารถมั่นใจว่าจะได้รับการบริการที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ครบวงจร (ONE STOP SERVICE) ได้ความคุ้มค่า ได้ความรวดเร็ว ได้การดูแลที่ดีตลอดจนความมั่นใจในการก่อสร้าง โดยทีมวิศวกรและผู้บริหารที่มีประสบการณ์และความชำนาญในงานติดตั้งมากกว่า 10 ปี พร้อมให้คำปรึกษา และมุ่งเน้นทางด้านการบริการที่ตอบโจทย์และครบวงจร
บริษัท เออีไอ โซลูชั่น จำกัด
เลขที่ 58 ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 48 แยก 18 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร 10250
บริษัท เออีไอ โซลูชั่น จำกัด
เลขที่ 58 ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 48 แยก 18 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร 10250