ระบบการบริหารคลังสินค้าคืออะไร มีไว้ทำอะไร?

การบริหารคลังสินค้า

ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ผู้ประกอบการจำเป็นต้องอยู่เหนือเกมการแข่งขัน สิ่งสำคัญประการหนึ่งที่ไม่อาจมองข้ามได้คือ Smart Warehouse ที่มีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบไปจนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย เพราะการจัดเก็บสิ่งของเหล่านี้มีความสำคัญต่อกระบวนการและมีบทบาทสำคัญในด้านโลจิสติกส์ นี่คือจุดที่ระบบการบริหารคลังสินค้า(WMS) ได้เข้ามามีบทบาท ช่วยขจัดปัญหาคอขวดอย่างอุปทานที่ผันผวนและความล่าช้า

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะเจาะลึกลงไปในความซับซ้อนของระบบบริหารคลังสินค้า เรามาสร้างความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับแง่มุมพื้นฐานของคลังสินค้ากันดีกว่า

ระบบบริหารคลังสินค้าคืออะไร?

ระบบบริหารคลังสินค้า (Warehouse Management System) หมายถึงการควบคุมการปฏิบัติงานต่าง ๆ ภายในคลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นระบบ โดยเกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลและเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการจัดการสินค้าคงคลัง การจัดเก็บ การหยิบ การบรรจุ และการขนส่งสินค้า เป้าหมายหลักของการบริหารจัดการคลังสินค้าคือเพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมอยู่ในสถานที่ที่ถูกต้องในเวลาที่เหมาะสม ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดตลอดห่วงโซ่อุปทาน

หลักการบริหารคลังสินค้า

ก่อนจะเป็น Smart Warehouse ที่สมบูรณ์แบบต้องมีระบบบริหารคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพ ต่อไปนี้เป็นหลักการสำคัญสามประการ

1. การเพิ่มประสิทธิภาพองค์กรและเค้าโครง

  • การจัดผังคลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพถือเป็นสิ่งสำคัญ ออกแบบแผนผังชั้นวาง เพื่อลดเวลาในการเดินทางในการหยิบ บรรจุ และจัดเก็บสินค้า 
  • ใช้ระบบการจัดหมวดหมู่และการติดฉลากเชิงตรรกะสำหรับรายการสินค้าคงคลังเพื่อช่วยให้ระบุและเรียกค้นได้ง่าย
  • ใช้พื้นที่อย่างชาญฉลาดโดยการใช้ชั้นวาง หรือระบบจัดเก็บแบบอัตโนมัติเพื่อเพิ่มความจุสูงสุด

2. การจัดการและควบคุมสินค้าคงคลัง

  • รักษาบันทึกสินค้าคงคลังที่ถูกต้องผ่านการใช้ซอฟต์แวร์การจัดการระบบบริหารคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพ
  • ดำเนินการอย่างรอบคอบเป็นประจำและเช็กยอดสินค้าคงคลังเพื่อป้องกันความคลาดเคลื่อนและหลีกเลี่ยงสถานการณ์สินค้าล้นสต็อก
  • ใช้เทคนิคการคาดการณ์สินค้าคงคลัง เพื่อประเมินความต้องการและปรับระดับสินค้าคงคลังให้เหมาะสม

3. เพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการปฏิบัติงาน

  • ปรับปรุงขั้นตอนการทำงานของคลังสินค้าโดยการสร้างขั้นตอนการรับ การจัดเก็บ การหยิบ และการจัดส่งที่มีประสิทธิภาพ
  • ใช้เทคนิคการจัดการแบบลีนเพื่อลดของเสีย ลดข้อผิดพลาด และปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานโดยรวม
  • ใช้เทคโนโลยี เช่น เครื่องสแกนบาร์โค้ด RFID (การระบุความถี่วิทยุ) หรือ WMS (ระบบการบริหารจัดการคลังสินค้า) เพื่อทำให้กระบวนการเป็นอัตโนมัติและปรับให้เหมาะสมที่สุด

ประเภทของระบบบริหารคลังสินค้า

ระบบบริหารคลังสินค้ามีหลายประเภท โดยแต่ละประเภทจะตอบสนองความต้องการเฉพาะและข้อกำหนดในการปฏิบัติงานภายในคลังสินค้า ต่อไปนี้คือระบบการจัดการคลังสินค้าประเภททั่วไปบางประเภท

WMS แบบสแตนด์อโลน บริหารคลังสินค้าแบบสแตนด์อโลนทำงานอย่างเป็นอิสระและไม่ได้รวมเข้ากับระบบอื่น ๆ เช่น ERP (การวางแผนทรัพยากรองค์กร) โดยมุ่งเน้นที่การดำเนินงานคลังสินค้าเพียงอย่างเดียว โดยมีฟังก์ชันต่าง ๆ เช่น การติดตามสินค้าคงคลัง การหยิบคำสั่งซื้อ การบรรจุ และการจัดส่ง
WMS ที่รวม ERP บริหารคลังสินค้าจำนวนมากถูกรวมเข้ากับระบบ ERP ที่กว้างขึ้น ระบบเหล่านี้รวมฟังก์ชัน WMS เข้ากับกระบวนการทางธุรกิจอื่น ๆ เช่น การบัญชี ทรัพยากรบุคคล และการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ การบูรณาการนี้ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการไหลเวียนของข้อมูลระหว่างแผนกต่าง ๆ ภายในองค์กรอย่างราบรื่น
WMS บนคลาวด์  โซลูชันบริหารคลังสินค้าบนคลาวด์นั้นโฮสต์บนเซิร์ฟเวอร์ระยะไกลและเข้าถึงได้ผ่านทางอินเทอร์เน็ต นำเสนอความสามารถในการปรับขนาด ความยืดหยุ่น และการเข้าถึงได้จากทุกที่ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ระบบบนคลาวด์มักมาพร้อมกับโมเดลการสมัครรับข้อมูล ซึ่งช่วยลดความจำเป็นในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานล่วงหน้า

ประโยชน์ของระบบบริหารคลังสินค้า

ระบบบริหารคลังสินค้ามีความสำคัญอย่างยิ่งในการดำเนินงานคลังสินค้าสมัยใหม่ โดยเฉพาะในบริบทของระบบอัตโนมัติ ดังนี้

1. ลดต้นทุนการดำเนินงาน

ระบบบริหารคลังสินค้าที่ดีช่วยลดต้นทุนแรงงานได้อย่างมากโดยทำให้งานต่าง ๆ เป็นแบบอัตโนมัติ เช่น การติดตามสินค้าคงคลังและการดึงสินค้า ประสิทธิภาพนี้ช่วยลดความจำเป็นในการใช้กำลังคนส่วนเกิน และลดโอกาสที่จะเกิดข้อผิดพลาดที่มีค่าใช้จ่ายสูง เช่น การจัดส่งผิดพลาดหรือการนับสินค้าคงคลัง ผิดพลาด

2. ปรับปรุงความถูกต้องของสินค้าคงคลัง

ด้วยการติดตามแบบเรียลไทม์และการจัดการสต็อกอัตโนมัติ ระบบบริหารคลังสินค้าจะรักษาความถูกต้องของสินค้าคงคลังในระดับสูง ความแม่นยำนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการหลีกเลี่ยงการสต๊อกสินค้ามากเกินไป (ซึ่งผูกกับเงินทุน) และสินค้าค้างสต็อก (ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียยอดขาย)

3. ปรับปรุงความเร็วและความแม่นยำในการปฏิบัติตามคำสั่งซื้อ

ด้วยการปรับปรุงกระบวนการหยิบและบรรจุให้มีประสิทธิภาพ ระบบบริหารคลังสินค้าช่วยให้มั่นใจได้ว่าการปฏิบัติตามคำสั่งซื้อจะเร็วขึ้นและมีข้อผิดพลาดน้อยที่สุด สิ่งนี้ส่งผลโดยตรงต่อความพึงพอใจและการรักษาลูกค้า ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของรายได้

4. อำนวยความสะดวกในการเพิ่มประสิทธิภาพที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล

ระบบบริหารคลังสินค้าให้ข้อมูลเชิงลึกที่นำไปปฏิบัติได้ในการปฏิบัติงานของคลังสินค้า ช่วยให้ผู้จัดการสามารถตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลรอบด้านเพื่อเพิ่มผลผลิตและลดของเสีย รวมถึงการจัดสรรแรงงาน การจัดซื้อสินค้าคงคลัง และการปรับปรุงกระบวนการ

5. ความสามารถในการปรับขนาด

เนื่องจากความต้องการทางธุรกิจมีความผันผวน การบริหารที่มีประสิทธิภาพของคลังสินค้าจะช่วยปรับตัวได้อย่างราบรื่น โดยจัดการกับปริมาณการสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นหรือการเปลี่ยนแปลงสินค้าคงคลังซึ่งไม่จำเป็นต้องเพิ่มทรัพยากรหรือแรงงานตามสัดส่วน

6. การปฏิบัติตามข้อกำหนดและการรายงาน

ด้วยการรักษาบันทึกที่ถูกต้องและอำนวยความสะดวกในการรายงานที่ง่ายดาย ระบบบริหารคลังสินค้าช่วยให้ปฏิบัติตามข้อกำหนด กฎระเบียบ ลดความเสี่ยงของความล้มเหลวทางกฎหมายหรือการปฏิบัติงานที่มีค่าใช้จ่ายสูง

7. การบูรณาการกับระบบธุรกิจอื่น ๆ

ความสามารถในการบูรณาการกับ ERP, CRM และเครื่องมือห่วงโซ่อุปทานอื่น ๆ หมายความว่า ระบบบริหารคลังสินค้าสามารถซิงโครไนซ์การดำเนินธุรกิจทั้งหมด เพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลโดยรวม

การลงทุนในระบบการบริหารคลังสินค้า ไม่ใช่แค่การนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้เท่านั้น แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินงานคลังสินค้าขั้นพื้นฐานเพื่อให้เกิดการประหยัดต้นทุน ประสิทธิภาพ และความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาด ผลตอบแทนจากการลงทุนในระบบคลังสินค้ามักจะแสดงให้เห็นทั้งการประหยัดที่จับต้องได้และผลประโยชน์ที่จับต้องไม่ได้ เช่น ความพึงพอใจของลูกค้าและชื่อเสียงของแบรนด์

และคุณประโยชน์ทั้งหมดนี้สามารถปรับปรุงเพิ่มเติมได้โดยการผสานรวมระบบบริหารคลังสินค้าเข้ากับระบบ AutoStore ซึ่งเป็น ASRS ที่เร็วที่สุดในโลกต่อตารางฟุต

ติดต่อ AEI Solution เราสามารถช่วยจัดหาโซลูชั่นสำหรับธุรกิจของคุณ ไม่ว่าจะเป็น Automated Warehouse ระบบASRS Smart Warehouse เพื่อให้มั่นใจว่าคุณได้รับ มาตรฐานสูงสุดในด้านคุณภาพ ผลผลิต การจัดเก็บ และพื้นที่ ไม่ว่าธุรกิจของคุณ จะมีขนาดเท่าใด นอกจากนี้ยังพร้อมให้บริการแบบรอบด้าน และครบวงจรในคลังสินค้า ตั้งแต่การให้คำปรึกษา ออกแบบ ติดตั้ง การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน WMS และบริการหลังการขาย จึงทำให้ลูกค้าสามารถมั่นใจว่าจะได้รับการบริการ ที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ครบวงจร (ONE STOP SERVICE) ได้ความคุ้มค่า ได้ความรวดเร็ว ได้การดูแลที่ดีตลอดจนความมั่นใจในการก่อสร้าง โดยทีมวิศวกรและผู้บริหาร ที่มีประสบการณ์ และความชำนาญในงานติดตั้งมากกว่า 10 ปี พร้อมให้คำปรึกษาและมุ่งเน้นทางด้านการ บริการที่ตอบโจทย์ และครบวงจร

ที่มาข้อมูล: unicommerce.com

Share:

บทความน่าสนใจ