โลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพเป็นรากฐานสำคัญของ Smart Warehouse โรงงานผลิต หรือคลังสินค้า อย่างไรก็ตามเราไม่สามารถติดตั้งอุปกรณ์เพื่อลำเลียงได้ทุกที่ หุ่นยนต์เคลื่อนที่ประเภท รถ AGV ในอุตสาหกรรม จึงมีประโยชน์ในสถานการณ์เช่นนี้ เหนือสิ่งอื่นใด รถ AGV คืออะไร และใช้ในอุตสาหกรรมใดบ้าง คำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้มีอยู่ในบทความต่อไปนี้
รถ AGV คืออะไร?
AGV หรือ Automatically Guided Vehicles เป็นเครื่องจักรขนส่งประเภทต่าง ๆ ที่สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระและทำงานได้โดยไม่ต้องมีผู้ควบคุม มีขนาดตั้งแต่รถเข็นขนาดเล็กที่ใช้ในการขนย้ายวัสดุน้ำหนักเบาระหว่างการผลิต ไปจนถึงเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่สามารถบรรทุกน้ำหนักได้หลายสิบตัน ยานพาหนะนำทางอัตโนมัติประเภทต่าง ๆ ที่ใช้ใน Smart Warehouse แห่งเดียวสามารถเชื่อมต่อกับระบบ AGV ได้ ซึ่งสามารถปรับปรุงกระบวนการผลิตใด ๆ ได้อย่างมาก สิ่งที่คุณต้องมีคือซอฟต์แวร์ อุปกรณ์ต่อพ่วง เช่น สถานีชาร์จที่เหมาะสม และการปรับแต่งโครงสร้างพื้นฐานบางอย่างในบางครั้ง (ขึ้นอยู่กับประเภทของ AVG ที่ใช้)
รถบรรทุกขนส่งที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองสามารถเคลื่อนที่ไปตามเส้นทางที่กำหนด โดยรุ่นเก่าจำเป็นต้องใช้สายไฟพิเศษในการปูบนพื้นเพื่อสร้างสนามแม่เหล็ก อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้ สามารถใช้เทปเฟอร์โรแมกเนติกหรือเทปสะท้อนแสงติดบนพื้นผิว
รถ AGV ในอุตสาหกรรมรุ่นที่ใหม่กว่าและฟังก์ชันที่สูงขึ้นจะมีการติดตั้งกล้องที่ช่วยให้สามารถอ่านเครื่องหมายพิเศษที่วางอยู่บนผนังและหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางที่อาจปรากฏบนเส้นทาง ดังนั้นระบบ AGV สามารถนำไปใช้ในโรงงานผลิตแทบทุกแห่ง เครื่องจักรเหล่านี้เพียงไม่กี่เครื่องสามารถเร่งกระบวนการผลิตได้อย่างมากโดยทำให้สายการผลิตมีประสิทธิภาพมากขึ้น
รถ AGV ในหลายอุตสาหกรรม
#1 อุตสาหกรรมขายปลีก
โลกาภิวัตน์ที่เพิ่มขึ้น การค้าออนไลน์และการค้าปลีกเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอยู่เสมอ บริษัทค้าปลีกจึงต้องต่อสู้กับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นนี้ อีกทั้งยังต้องแข่งขันกันเองอีกด้วย ดังนั้นอุตสาหกรรมค้าปลีกจำเป็นต้องทำอย่างมีรถ AGV ที่มีประสิทธิภาพใน Smart Warehouse และร้านค้า
#2 อุตสาหกรรมยานยนต์
การค้าปลีกอาจได้รับการคาดการณ์ว่าจะเติบโตมากที่สุดจากการนำ AGV มาใช้ แต่อุตสาหกรรมยานยนต์กลับครองส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด ในช่วงแรก มีเพียงบริษัทรถยนต์รายใหญ่ที่สุดเท่านั้นที่ตระหนักถึงความจำเป็นในการเพิ่มประสิทธิภาพผ่านระบบอัตโนมัติ ปัจจุบัน ไม่ใช่แค่ผู้ผลิตรายใหญ่ที่ใช้รถ AGV ในการขนส่งวัสดุเท่านั้น แต่ยังรวมถึงซัพพลายเออร์และผู้ผลิตชิ้นส่วนด้วยเช่นกัน
ซัพพลายเออร์และผู้ผลิตชิ้นส่วนต้องให้ความสำคัญกับการจัดการสินค้าและสต็อกอย่างต่อเนื่อง ชิ้นส่วนขนาดเล็ก กระจกหน้ารถ แผงตัวถัง แบตเตอรี่ แม้แต่อุปกรณ์การประชุมเชิงปฏิบัติการและของเหลวที่ทำปฏิกิริยารถ AGV ช่วยให้ทุกการเคลื่อนไหวคล่องตัวขึ้น
#3 อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม
อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มมีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการนำรถ AGV มาใช้มากขึ้น เมื่อการค้าปลีกออนไลน์เติบโตขึ้น การสั่งผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน รูปแบบใหม่ในการจัดส่งอาหาร ต้องส่งตรงถึงผู้บริโภค สร้างแรงกดดันมหาศาลให้กับผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่ม จึงจำเป็นต้องทำมากกว่าการตามทันความต้องการ คือต้องเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของตนให้มีประสิทธิภาพและทันท่วงที
ผลิตภัณฑ์อาหารหลายชนิดมีสินค้าโภคภัณฑ์จำนวนมาก เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน ผู้ผลิตส่วนใหญ่ต้องแสวงหาวิธีการใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มความคุ้มค่าในการดำเนินงานของตน และนั่นคือสาเหตุที่บริษัทอาหารและเครื่องดื่มทุกขนาดหันมาใช้รถ AGV ในอุตสาหกรรม
#4 อุตสาหกรรมการผลิต
ภาคการผลิตโดยรวมยอมรับรถ AGV มานานแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งวัตถุดิบหรือการรับสินค้าสำเร็จรูปผ่านกระบวนการ EOL (สิ้นสุดสายการผลิต) ยานพาหนะอัตโนมัติช่วยมอบประสิทธิภาพที่สำคัญที่มนุษย์ไม่สามารถเทียบเคียงได้ ประโยชน์ของรถ AGV เช่น การประหยัดพื้นที่ การลดต้นทุน การลดการบาดเจ็บของพนักงาน ROI ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างเห็นได้ชัด เป็นต้น
AGV เป็นหุ่นยนต์ขนส่งอัตโนมัติที่สามารถปฏิบัติงานได้หลากหลายเพื่อเคลื่อนย้ายสินค้าภายในคลังสินค้าและโรงงานอุตสาหกรรม มีระบบนำทางและควบคุมขั้นสูง ที่ช่วยให้สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลีกเลี่ยงอุปสรรค และปฏิบัติงานได้อย่างแม่นยำ
หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ AGV และข้อดีอื่น ๆ ในภาคการผลิต ที่ AEI Solution สามารถช่วยให้คุณจัดหาโซลูชั่นสำหรับธุรกิจของคุณ ไม่ว่าจะเป็น Automated Warehouse ระบบ ASRS Smart Warehouse เพื่อให้มั่นใจว่าคุณได้รับ มาตรฐานสูงสุดในด้านคุณภาพ ผลผลิต การจัดเก็บ และพื้นที่ ไม่ว่าธุรกิจของคุณ จะมีขนาดเท่าใด นอกจากนี้ยังพร้อมให้บริการแบบรอบด้าน และครบวงจรในคลังสินค้า ตั้งแต่การให้คำปรึกษา ออกแบบ ติดตั้ง การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน WMS และบริการหลังการขาย จึงทำให้ลูกค้าสามารถมั่นใจว่าจะได้รับการบริการ ที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ครบวงจร (ONE STOP SERVICE) ได้ความคุ้มค่า ได้ความรวดเร็ว ได้การดูแลที่ดีตลอดจนความมั่นใจในการก่อสร้าง โดยทีมวิศวกรและผู้บริหาร ที่มีประสบการณ์ และความชำนาญในงานติดตั้งมากกว่า 10 ปี พร้อมให้คำปรึกษาและมุ่งเน้นทางด้านการ บริการที่ตอบโจทย์ และครบวงจร
-
ที่มา
- versabox.eu
